วันพุธที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

ความสำคัญของปฏิจจสมุปบาท


           ปฏิจจสมุปบาทเป็นพุทธธรรมที่สำคัญอย่างยิ่งยวด  และเป็นเรื่องที่มีความลึกซึ้งที่สุด   จนได้ชื่อว่าเป็นหัวใจของพุทธศาสนา  หรือตัวแท้ของศาสนา  ( แก่นแท้ของพุทธศาสนา )  ความสำคัญของปฏิจจสมุปบาทอาจเห็นได้จากพระพุทธพจน์ตอนหนึ่งว่า "ผู้ใดเห็นปฏิจจสมุปบาท ผู้นั้นย่อมเห็นธรรม   ผู้ใดเห็นธรรม  ผู้นั้นย่อมเห็นปฏิจจสมุปบาท"
"ภิกษุทั้งหลาย  แท้จริงแล้ว  อริยสาวกผู้เรียนรู้แล้ว  ย่อมมีญาณหยั่งรู้ในเรื่องนี้โดยไม่ต้องเชื่อผู้อื่นว่า เมื่อสิ่งนี้มี  สิ่งนี้จึงมี  เพราะสิ่งนี้เกิดขึ้น  สิ่งนี้จึงเกิดขึ้น  ฯลฯ  เมื่อใดอริยสาวกรู้ทั่วถึงความเกิด ความดับของโลกตามที่มันเป็นเช่นว่านี้  อริยสาวกนั้น  เรียกว่าเป็นผู้มีทิฐิสมบูรณ์  (ความเห็นที่ถูกต้องอย่างสมบูรณ์) ก็ได้   ผู้มีทัศนะสมบูรณ์ก็ได้   ผู้บรรลุถึงสัจธรรมนี้ก็ได้   ชื่อว่าผู้ประกอบด้วยเสขญาณก็ได้   ผู้ประกอบด้วยเสขวิชชาก็ได้   ผู้บรรลุกระแสธรรมแล้วก็ได้  พระอริยบุคคลผู้มีปัญญาชำระกิเลสก็ได้  ผู้อยู่ชิดติดประตูอมตะก็ได้"
     "สมณพราหมณ์เหล่าใด  รู้ธรรมเหล่านี้  รู้เหตุเกิดแห่งธรรมเหล่านี้  รู้ความดับของธรรมเหล่านี้  รู้ทางดำเนินเพื่อดับแห่งธรรมเหล่านี้  ฯลฯ   สมณพราหมณ์เหล่านั้นแล  จึงเป็นที่ยอมรับว่าเป็นสมณะในหมู่สมณะ  และเป็นที่ยอมรับว่าเป็นพราหมณ์ในหมู่พราหมณ์  และได้ชื่อว่าได้บรรลุ-ประโยชน์ของความเป็นสมณะและประโยชน์ของความเป็นพราหมณ์ด้วยปัญญาอันยิ่ง  เข้าถึงอยู่ในปัจจุบัน"
     ความสำคัญของปฏิจจสมุปบาทนั้นมีมาก  หากเราเข้าใจอย่างชัดเจน  และปฏิบัติตามได้อย่างเหมาะสมก็จะได้รับประโยชน์สูงสุดตามจุดหมายของพุทธศาสนา  ซึ่งถือว่าเป็นแก่นแท้หรือสาระสำคัญสูงสุดของพุทธศาสนา  ในกาลครั้งหนึ่ง พระอานนท์กราบทูลกับพระพุทธเจ้าว่า เรื่อปฏิจจสมุปบาทดูเป็นเรื่องง่ายและตื้นสำหรับตัวท่านเอง   พระพุทธเจ้าได้ตรัสเตือนพระอานนท์ว่า
"ดูก่อนอานนท์  เธออย่ากล่าวอย่างนั้น  ปฏิจจสมุปบาทเป็นเรื่องลึก  ลักษณะโครงสร้างก็ลึกซึ้ง  หมู่สัตว์นี้ไม่รู้  ไม่รู้ตามที่เราสอน  ไม่แทงตลอดหลักปฏิจจสมุปบาท  จิตจึงยุ่งเหมือนกลุ่มด้ายที่ยุ่ง  เหมือนกลุ่มเศษด้ายที่เป็นปม  ติดพันซ่อนเงื่อนกันยุ่ง  เหมือนเชิงผ้ามุญชะและหญ้าปัพพชะ  ไม่ล่วงพ้นจากสังสาระคืออบาย  ทุคติ  วินิบาตไปได้"
     ปฏิจจสมุปบาทเป็นแก่นแท้หรือหัวใจของพุทธศาสนา  เป็นหลักแสดงถึงกระบวนการแห่งเหตุปัจจัยที่สืบต่อเชื่อมโยงกันทั้งในกระบวนการเกิดและดับ   หากจะประมวลเอาสาระสำคัญของปฏิจจสมุปบาทนั้น  ไม่อาจกล่าวให้ครอบคลุมได้ทั้งหมด  แต่อาจสรุปความสำคัญบางประการได้ ดังนี้
     เป็นหลักธรรมที่แสดงถึงกฎธรรมชาติของสรรพสิ่ง  ซึ่งมีการไหลไปไม่หยุดนิ่ง มีเกิดในเบื้องต้น  แปรปรวนในท่ามกลาง  และแตกดับไปในที่สุด
เป็นหลักธรรมที่แสดงถึงกฎธรรมดาของสรรพสิ่ง  ซึ่งเป็นของไม่เที่ยง  เป็นทุกข์  และเป็นอนัตตา
เป็นหลักธรรมที่แสดงถึงกฎแห่งสงสารวัฏ คือวงจรแห่งความทุกข์ที่เกิดขึ้น เพราะอาศัยกิเลส  กรรม  วิบาก
เป็นหลักธรรมข้อใหญ่ที่ประมวลเอาความหมายแห่งธรรมทั้งหลายมาไว้
เป็นธรรมที่ว่าด้วยเรื่องชีวิตของมนุษย์ในขณะนี้และเดี๋ยวนี้

ที่มา : http://www.dharma-gateway.com/dhamma/dhamma-32-01.htm

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น